“ไปหมู่บ้านศาลาแดงครั้งแรก รู้สึกว่าหมู่บ้านนี้ท่าทางจะลำบาก เพราะเข้าไปลึกและถนนลำบาก แต่พอได้เข้าไปในหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้น่าอยู่ สบายมาก อากาศดี ชุมชนพอเพียง ครั้งแรกไปก้เจอพี่หม่อนลูกผู้ใหญ่ พาเดินชมหมู่บ้าน พี่หม่อนคุยเก่ง น่ารัก มีความรู้เยอะด้วย ครั้งที่2ที่ไปก้ไปถ่ายทำงานวิชาพีอาร์306 เจอลุงผู้ช่วย ลุงผู้ช่วยให้สัมภาษ พูดคุยเก่งมาก แล้วก้ไปเจอป้าอัมพร ป้าอัมพรเป็นอสม.ป้าอัมพร สาธิตวิธีตรวจวัดน้ำให้ดู ว่าริมแม่น้ำที่หมู่บ้านศาลาแดงใสสะอาด ไปเจอน้องๆเด็กๆปั่นจักรยานเล่นกัน บางคนก้เล่นน้ำอยู่ริมแม่น้ำ แล้วก้ไปแวะกินน้ำที่ร้านค้าในหมู่บ้าน รอบสาม กลุ่มเพื่อนไป ถ่ายงานเกี่ยวกับข้าวแช่ ไปถ่ายทำกันที่บ้านป้าพร มีป้าพร ป้าแดง เป็นคนทำข้าวแช่ให้ ข้าวแช่อร่อยมากเป็นอาหารของคนมอญตั้งแต่รัชกาลที่5 ข้าวแช่จะเป็นข้าวหุงสุข เอาน้ำใบเตยเยนๆ มาราดใส่ในข้าวสุก แร้วกินกับ หมูฝอย ไชโป้ผัด กระเทียมดองยำ ไข่เค็ม ข้าวแช่เป็นของหวาน กินแล้วสดชื่น รอบที่4 ไปลงพื้นที่อีกรอบ ไปแวะบ้านป้าพร ป้าพรป้าแดงกำลังทำแกงมอญอยู่ ชื่อแกงมะตาด เป็นแกงขึ้นชื่อของมอญ แล้วก็ไปเจอผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่ไม่สบายยุหลายวันแล้ว แต่วันที่ไปผู้ใหญ่ดีขึ้นแล้วเลยออกมาพูดคุยให้ข้อมูลกัน ภรรยาผู้ใหญ่ก็ให้ความร่วมมือกันเตมที่ วันที่ไปพี่หม่อนลูกสาวผู้ใหญ่ไม่อยู่ เพราะต้องไปเข้าค่ายลูกเสือชาวบ้าน ซักพักก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกชามละ15บาท อร่อยมาก เพื่อนๆ กินกันคนละ2ชามเลยคะ ท้องป่อง กันเลยทีเดว” (ความประทับใจจาก นส.ทัศนัยน์ อัยรักษ์)
“ครั้งแรกของการลงพื้นที่ของเราที่ หมู่บ้านศาลาแดง เดินทางด้วยความที่ใครๆก็จำทางไม่ได้ จนเกิดการหลงเล็กน้อย เราก็ยังมีรอยยิ้มกันอยู่ แต่เราก็ใช้เวลาไม่นานก็เจอทางเข้าหมู่บ้าน ยังไม่แค่นั้นทางเข้าหมู่บ้านยังมีระยะทางยาวไกล และเป็นถนนที่คิดว่าน่าจะเป็นช่วงที่ปรับปรุง ซ่อมแซม เพราะเป็นถนนดินแดงลูกรัง ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ และเป็นพื้นต่างระดับในบางช่วงถนน เราขับรถเข้ากันด้วยความช้า และทุลักทุเลเล็กน้อย แต่เราก็ยังมาคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีความเครียดแต่อย่างใด เพราะเราถือว่าเราได้มาร่วมทำ ร่วมลงพื้นที่กับเพื่อนๆ ในที่สุดเราก็ได้มาถึงบ้านของคนทีี่เรานัดกันเอาไว้ เค้าต้อนรับเราเป็นอย่างดี และพาเราไปเดินสำรวจชุมชน ไปดูหางหงส์ ไปดูขนมกระยาสารท แต่ในระหว่างทางเดินที่จะเดินเข้าบ้านป้าที่ทำขนมกระยาสารทนั้น มันเกิดนำ้ท่วมเล็กน้อย เพราะช่วงนั้นฝนตกเกือบทุกวัน แต่เราทุกคนก็ไม่หวั่น ถอดรองเท้า ถกขากางเกง และเดินลุยนำ้กันไปจนถึงบ้านป้าเค้า เราได้วิธีทำขนม ได้รู้จักกับกระยาสารทมากขึ้น และที่สำคัญ เราทุกคนได้กินกระยาสารทฟรี เพราะป้าเค้าใจดีมาก หลังจากนั้นก็เดินดูนู่นนี่อีกนิดหน่อย เราก็ได้ทำการขอบคุณและขอตัวกลับ…ตอนกลับเราก็ต้องค่อยๆขับกลับกันอย่างช้าๆเช่นเดิม แต่เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ตั้งแต่การเริ่มออกเดินทาง จนถึง ตอนที่แยกย้ายกันกลับ มีทั้งเรื่องดี และ เรื่องร้าย แต่พวกเราก็ทำมันด้วยรอยยิ้ม ไม่มีใครบ่นอะไรซักคำ เพราะเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่เราได้ทำจริง ลำบากจริง สนุกสนานจริง ไม่ใช่แค่ความรู้ในห้องเรียน เรารวมความทั้งหมดนี้ว่า “ความประทับใจ” ”
(ความประทับใจจาก นส.กรรณิการ์ โพธิ์ศรี)
20 กันยา ลงชุมชนครั้งแรก จากถนนใหญ่เข้าสู่ตัวหมู่บ้านบอกได้คำเดียวว่า จะรอดไหมเนี่ย สองข้างทางมีเพียงผืนนาแถมหลงทางอีกต่างหาก ให้ความรู้สึกแบบชนบทสุดๆ แต่เมื่อเข้าไปถึงตัวหมู่บ้าน ค่อยโล่งอกหน่อย แต่ก็ยังมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คือ สถานที่ที่ต้องเข้าไปสำรวจ น้ำเกิดท่วมขึ้นมา ไปได้ใกล้สุดก็สะพานตัวที ที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ลมเย็นสบาย พ่อผู้ใหญ่บ้านกำลังยุ่ง เลยให้พี่หม่อนเป็นผู้ให้ข้อมูลแทน ได้รู้เรื่องอะไรที่ต้องการรู้เยอะ29 กันยา ลงชุมชนครั้งที่ 2 รอบนี้ไปร่วมงาน เวทีชุมชนได้รู้ประวัติของชุมชนเพิ่มมากขึ้นกว่าครั้งแรก แต่ปัญหาก็เกิดอีก เพราะพี่คนขับรถเกิดขับเลยถนนที่จะเข้าไปสถานที่จัดงาน พี่เค้าเลยถอยรถเพื่อที่จะเข้าไปในสถานที่ที่จัดงาน งานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้นำของแต่ละหมู่บ้านกับเหล่าคณาจารย์และนักศึกษาเก็บข้อมูลได้มากขึ้น แลกเปลี่ยนความรู้และได้รู้ในเรื่องที่อยากรู้ แต่…
22 ตุลา เริ่มต้นถ่ายทำงานPR306 เมื่อผู้ใหญ่บ้านป่วยและพี่หม่อนติดธุระกะทันหัน งานนี้เกือบล่ม แต่ก็ได้เพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไปถ่ายงานเหมือนกันช่วยไว้ได้ จากการสัมภาษณ์ของผู้ใหญ่บ้านกลายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่แทนซะงั้นอ่ะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี อากาศร้อนมากอีกตามเคย ลืมกินข้าวกินปลากันทีเดียว เพราะมัวแต่ถ่ายงาน จนลืมเวลา สรุปว่าวันนั้น ได้ดื่มแต่น้ำ
28 ตุลา ลงชุมชนเก็บข้อมูลพร้อมกันทั้ง 3 กลุ่ม งานนี้เหงื่อโชกมาก เมื่อถึงหมู่บ้านแบ่งกลุ่มสัมภาษณ์งานและเก็บภาพทำBlog เดินถ่ายกันเรื่อยเริ่มเหนื่อย เลยนั่งพักที่ศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลมเย็นดี สักพักผู้ใหญ่ปั่นจักรยานผ่านมาพอดี เลยนั่งสัมภาษณ์งานกันต่อ นำโดยพิธีกรคนสวย คือ มิส ตินตินหรือ สาวเชอร์รี่นั่นเอง ถามไปถามมาเริ่มหิว หาอะไรกินกันดีกว่า มาจบด้วยการกินก๋วยเตี๋ยวเพียงร้านเดียวสุดซอย ราคาถูกและอร่อย”
( เบญจวรรณ กันทะธง)